"เนเชอรัลเทรนด์ดี้" บูมตลาดชาสมุนไพรออร์แกนิค

วาไรตี้ เอ็กซ์พอร์ต ปลื้ม ผลิตชาสมุนไพรเพื่อสุขภาพ แบรนด์ "เนเชอรัล เทรนด์ดี้" ส่งออกจีน-เกาหลีใต้ ได้ภายใน 1 ปี คาดปี '57 เติบโตกว่า 60 % มั่นใจตลาดเปิดกว้าง เทรนด์เครื่องดื่มสมุนไพรมาแรง คู่แข่งต่างประเทศน้อยราย ตั้งเป้าปี '58 รุกตลาดอาเซียน          

นายธนวัฒน์ เสริมพาณิชย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท วาไรตี้ เอ็กซ์พอร์ต จำกัด ผู้ผลิตและส่งออกสินค้าชาสมุนไพร เพื่อสุขภาพ แบรนด์ "เนเชอรัลเทรนด์ดี้" เปิดเผยว่า หลังจากมีโอกาสไปศึกษาที่สาธารณะรัฐประชาชนจีน พบว่ากระแส เครื่องดื่มสุขภาพโดยเฉพาะเครื่องดื่มสมุนไพรกำลังเป็นที่นิยมอย่างมาก  เมื่อสำรวจตลาดกลับพบว่าสมุนไพรของจีนมีไม่กี่ชนิดเท่านั้น แต่สมุนไพร ของไทยมีหลากหลายชนิด ที่สามารถนำมา ทำเป็นเครื่องดื่มได้ 

ดังนั้น ภายหลังจาก เรียนจบจึงตัดสินใจตั้งบริษัทเมื่อต้นปี 2555 ลองผิดลองถูกอยู่นานกว่า 1 ปี บริษัทได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติและมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จึงทำให้เกิด สินค้าแบรนด์ "เนเชอรัลเทรนด์ดี้" ขึ้นมาได้สำเร็จเมื่อช่วงต้นปี 2556 โดยกว่าจะนำสมุนไพรไทย เช่น ตระไคร้ และใบมะกรูดมาทำเป็นเครื่องดื่มชาสมุนไพรได้สำเร็จ เจอปัญหาทั้งในเรื่องของกลิ่น รสชาติ และกระบวนการอบ เป็นต้น  แต่ปัจจุบัน บริษัทสามารถนำสมุนไพรไทยมาแปรรูปเป็นชาชงพร้อมดื่มเพื่อสุขภาพได้กว่า 7 ชนิด คือ ชาสมุนไพรใบตะไคร้, ใบมะกรูด, ใบเตย, ใบบัวบก, ใบสะระแหน, ใบฝรั่ง และกลีบดอกบัวหลวง อีกทั้ง นำสมุนไพรมาผสมกัน คือ ชาสมุนไพร กลีบดอกบัวหลวงผสมใบเตย และกลับดอกบังหลวงผสมใบมะกรูด
          
จุดเด่นของสินค้า คือ เป็นสินค้า ออร์แกนิค 100 % ไม่มีสารสังเคราะห์ รสชาติและกลิ่นของสมุนไพรแต่ละชนิด ยังคงไว้ เหมือนเดิมมากที่สุด เนื่องจากบริษัทใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย ในกระบวนการอบแห้ง ที่คงรสชาติไว้ สมุนไพรแต่ละชนิดเมื่อนำมาชงกับน้ำร้อนพร้อมดื่มแล้ว จะพบว่ามีลักษณะเป็นใบของสมุนไพรแต่ละชนิดเหมือนเดิม ลักษณะจะเหมือนการชงชา ที่เหมือนชงแล้ว จะเป็นใบชาเหมือนเดิม ไม่มีการบดเป็นผง
          
ปัจจุบัน สินค้ามีวางขายที่ริมปิงซุปเปอร์มาร์เก็ต และร้านวนัสนันท์ รวมถึงส่งไปรษณีย์ตามออเดอร์ของลูกค้าทั่วประเทศ สำหรับลูกค้าเป็นกลุ่มลูกค้า ในประเทศเพียง 20% กลุ่มลูกค้าต่างประเทศ 80% ทั้งประเทศจีนและเกาหลีใต้ คาดว่ามูลค่าสินค้าในปี 2557 จะเติบโตกว่าปีที่ ผ่านมาราว 60% เนื่องจากกระแสเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพกำลังเป็นที่นิยม
          
"ตลาดตอบรับดี ชาสมุนไพรได้รับความสนใจจากต่างประเทศเพิ่มขึ้นอย่าง ต่อเนื่อง โดยเฉพาะชาสมุนไพรใบตระไคร้, ใบมะกรูด และใบเตย" กรรมการผู้จัดการ กล่าวต่อไปว่า สำหรับวัตถุดิบ บริษัทได้ปลูก สมุนไพรไว้แปรรูปเอง ส่วนหนึ่งแต่ส่วนใหญ่ได้รับซื้อจากเกษตรกร โดยจะคัดสรรนำวัตถุดิบที่เป็นออร์แกนิคเท่านั้นเพื่อไม่ให้มีสารพิษตกค้างสำหรับผู้บริโภคและให้สินค้าของบริษัทเป็นสินค้าเพื่อสุขภาพจริงๆ
          
ปัจจุบันบริษัทมีกำลังการผลิตชาสมุนไพร ทั้ง 7 ชนิดได้ประมาณ 600 ห่อต่อวัน แนวโน้มตลาดชาสมุนไพรในอนาคต มองว่าเปิดกว้างค่อนข้างมาก เพราะตลาดชาสมุนไพรในต่างประเทศมีไม่มากนัก โดยเฉพาะประเทศจีน เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น ซึ่งนิยมดื่มชากันอย่างแพร่หลายและชา ที่ดื่มส่วนใหญ่ทำมาจากใบชา ส่วนชาที่ ทำมาจากสมุนไพรของไทยยังมีน้อยมาก และจะกลายมาเป็นตัวเลือกใหม่ให้กับ ผู้ที่นิยมดื่มชา  ส่วนประเทศเพื่อนบ้านอย่าง มาเลเซีย สิงคโปร์ และอินโดนีเซีย โอกาสก็เปิดกว้างเช่นกัน เพราะมีคนเชื้อสายจีนและผู้ที่นิยมดื่มชาอาศัยอยู่ค่อนข้างมาก ทางบริษัท ตั้งเป้าหมายภายในปี 2558 จะสามารถ ส่งออกขายในกลุ่มประเทศอาเซียนได้

ที่มา : หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ