ค้นหาสินค้า
Filters
Close
RSS

สาระน่ารู้

ดื่มชา ดีต่อสุขภาพจริงหรือ?

ดื่มชา ดีต่อสุขภาพจริงหรือ?

ชา เป็นเครื่องดื่มสมุนไพรที่นิยมมากเป็นอันดับ 2 ของโลก ถูกค้นพบเมื่อประมาณ 5,000 ปีก่อน โดยจักรพรรดิ์ Shen Nung สารสำคัญในชา คือ แคททีคินและฟลาโวนอยด์ (flavonoids) ช่วยป้องกันความเสื่อมของร่างกายและโรคเรื้อรังต่างๆ

Tea and leaf

ประโยชน์ของ ชา ต่อสุขภาพ

โรคหัวใจ

นักวิจัยแนะนำการ ดื่มชา อาทิ ชาเขียว ชาดำหรือชาแดง ชาอูลอง ชาขาว ฯลฯ วันละ 1-5 ถ้วย เพื่อลดโรคหัวใจหรือป้องกันหัวใจวาย สารฟลาโวนอยด์ในชาอาจช่วยป้องกันเกล็ดเลือดเกาะตัวตามผนังเส้นเลือดแดงและนำไปสู่โรคหลอดเลือดแดง

  • การวิจัยในประเทศเนเธอร์แลนด์ พบว่าผู้ที่รับประทานสารฟลาโวนอยด์มากที่สุด มีความเสี่ยงโรคหลอดเลือดหัวใจลดลง 68%   อาหารที่มีสารฟลาโวนอยด์มากที่สุดคือ ชาดำ รองลงมาคือ หัวหอม และแอ๊ปเปิ้ล

  • งานวิจัยในโรงเรียนแพทย์ฮาวาร์ด รัฐบอสตัน ศึกษาชาย-หญิง 340 คนที่มีปัญหาหัวใจวายอยู่ พบว่าผู้ที่ ดื่มชา ดำวันละถ้วย  ลดความเสี่ยงหัวใจวาย 44% เทียบกับผู้ที่ไม่ดื่ม

  • การวิจัยจากองค์การอาหารและเกษตรของสหรัฐอเมริกาพบว่าการ ดื่มชา ดำวันละ 5 ถ้วย ช่วยลดแอลดีแอลคอเลสเทอรอลและคอเลสเตอรอลรวมได้ ในกลุ่มชาย-หญิงที่มีคอเลสเตอรอลสูงขึ้นไม่มาก

โรคมะเร็ง

การวิจัยเบื้องต้นแนะว่าสารฟลาโวนอยด์ในชาอาจช่วยลดความเสี่ยงมะเร็ง

โรคเบาหวาน

หลักฐานทางระบาดวิทยาพบว่าการ ดื่มชา เขียวอาจป้องกันเบาหวาน

  • นักวิจัยพบว่าสารธรรมชาติในชาช่วยเพิ่มความไวต่ออินซูลินในเซลไขมันถึง 150 เท่า

  • งานวิจัยขนาดเล็กในผู้เป็นเบาหวานชนิดที่ 2 พบว่า การ ดื่มชา วันละ 6 ถ้วย นาน8 สัปดาห์จะช่วยลดระดับน้ำตาลลง 15-20%

  • การวิจัยจากไต้หวันพบว่าอาสาสมัคร 20 คนที่เป็นเบาหวานประเภท 2 และใช้ยาลดระดับ

  • น้ำตาล  หลังจาก ดื่มชา อูลองขนาดแก่(แช่น้ำเพียง 10 นาที) วันละ 6 ถ้วย (ถ้วยละ 240 มล.) นาน 30 วัน ระดับน้ำตาลในเลือดลดลง 29% จึงแนะว่า ชาอูลองอาจมีช่วยเพิ่มฤทธิ์ยาเบาหวานประเภท 2

iStock_000010728743_Small

เพิ่มภูมิต้านทาน

สารอะมิโนแอล-เธียนีนอาจช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันการติดเชื้อ และเพิ่มคลื่นอัลฟา (alpha wave)ในสมอง ทำให้รู้สึกผ่อนคลาย ข้อมูลล่าสุดพบว่าชาดำช่วยลดผลของฮอร์โมนเครียด

สุขภาพปากและฟัน

การวิจัยจากมหาวิทยาลัยนิวยอร์คในหนูพบว่า ชาดำช่วยลดฟันผุได้ คาดว่าสารฟลาโวนอยด์ในชามีผลยับยั้งแบคทีเรียในช่องปาก ลดการเกิดฟันผุ

การวิจัยจากมหาวิทยาลัยในชิคาโกพบว่า สารโพลีฟีนอลช่วยยับยั้งการเจริญของเชื้อแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดกลิ่นปาก

ชามีอันตรายหรือไม่

ในชามีสารฟลูออไรด์ซึ่งมีประโยชน์ต่อกระดูกและฟัน แต่ถ้ากินมากเกินไปจะทำให้กระดูกเปราะและฟันเป็นจุดขาวได้ สำหรับผู้ที่มีปัญหาโลหิตจาง ไม่ควร ดื่มชา พร้อมอาหารเพราะสารแทนนินจะลดการดูดซึมธาตุเหล็กและโปรตีนในลำใส้ อาจทำให้ร่างกายขาดธาตุเหล็ก

วิธีชงชาให้ได้ประโยชน์

Dr. Prior และคณะพบว่าเวลาที่เราแช่ชาดำชนิดซองในน้ำเดือด สารต้านอนุมูลอิสระจะออกมาในน้ำอย่างรวดเร็ว ร่างกายจะดูดซึมสารต้านอนุมูลอิสระในชาเขียวและชาดำได้เร็วและมีประสิทธิ ภาพ การ ดื่มชา วันละถ้วยจะให้สารต้านอนุมูลอิสระที่เพียงพอต่อร่างกาย

แค่เทน้ำเดือดๆ ลงบนซองชาหรือใบชาแช่ประมาณ 3-5 นาที แต่ถ้าคุณกำลังเร่งรีบ จุ่มซองยกขึ้นลงประมาณ 1 นาที จะช่วยปล่อยสารฟลาโวนอยด์จากชาเร็วขึ้น ทั้งนี้ทั้งนั้นผู้เชี่ยวชาญแนะว่าการจุ่มขึ้นจุ่มลงเพียง 1 นาทีกับการแช่ไว้ 4 นาที จะได้ประโยชน์พอๆกัน สำหรับชาเขียวให้แช่นานประมาณ 1-1 1/2 นาที

 

ขอบคุณที่มาจาก : Health&Cuisine กันยายน, Issue 80

ประโยชน์ของชาต่อสุขภาพ

 

1.ชากับการต้านอนุมูลอิสระ

ในชาประกอบด้วยสารต้านอนุมูลอิสระประเภทฟลาโวนอยด์ ที่ทรงพลังหลายชนิด โดยเฉพาะสาร Epigallocatechin gallate (EGCG) ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีฤทธิ์แรง โดยมีฤทธิ์มากกว่าวิตามินอีถึง 20 เท่า คาเทชินเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ สามารถจับกับอนุมูลอิสระที่เป็นสาเหตุของโรคหลายชนิด เช่น โรคมะเร็ง  โรคหัวใจและภาวะไขมันในเลือดสูง เป็นต้น  จึงช่วยลดอัตราเสี่ยงในการเป็นโรคเหล่านี้

2.ชากับโรคมะเร็ง

   การดื่มน้ำชาเป็นประจำสามารถช่วยลดอัตราการเกิดมะเร็งที่ อวัยวะต่างๆได้ เช่น มะเร็งกระเพาะอาหาร มะเร็งหลอดอาหาร มะเร็งลำไส้เล็ก มะเร็งปอด มะเร็งผิวหนัง มะเร็งลำไส้ใหญ่ มะเร็งตับอ่อน และมะเร็งเต้านม สารคาเทชิน (Catechins) ในชามีผลยับยั้งมะเร็งด้วยกลไกที่หลากหลาย คาเทชินที่ออกฤทธิ์ต้านมะเร็งที่สำคัญคือ Epigallocatechin gallate (EGCG)

3.ชากับโรคหัวใจ

   คาเทชิน (Catechins)  ช่วยลดการเกร็งของเลือดฝอย ลดการเกิดตะกอนในเส้นเลือดฝอย ทำให้ลดความเสี่ยงของโรคกล้ามเนื้อหัวใจตายจากการขาดเลือด อัมพฤษ์ และอัมพาฒจากเส้นเลือดตีบตัน นอกจากนี้ Epigallocatechin gallate (EGCG) ยังช่วยลดการเกิดออกซิเดชันของโคเลสเตอรอล ลดการสะสมและการสร้างตะกอนในเส้นเลือดจากโคเลสเตอรอล ลดการเกิดเส้นเลือดแข็งตัวตีบตัน และลดความเสี่ยงของโรคเส้นเลือดหัวใจตีบ

4.ชากับโรคเบาหวาน

สารโพลิฟีนอล (Polyphenols) ในชาช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด โดยยับยั้งการทำงานของเอนไซม์อะไมเลส  ซึ่งเป็นเอนไซม์ย่อยแป้ง  คาเทชินช่วยยับยั้งการทำงานของเอนไซม์อะไมเลสทั้งในน้ำลายและลำไส้  ทำให้แป้งถูกย่อยได้ช้าลง ช่วยให้การเพิ่มขึ้นของน้ำตาลในเลือดเป็นไปอย่างช้าๆ  นอกจากนั้นชาเขียวยังลดการดูดซึมของกลูโคสที่ลำไส้

5.ชากับสุขภาพช่องปาก

   สารโพลิฟีนอล (Polyphenols) ในชาช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรียในช่องปากซึ่งมีทั้งแบคทีเรียที่ก่อโรคในช่องปาก Porphyromonas gingivilis และแบคทีเรียที่ทำให้ฟันผุ Stretococcus mutans       คาเทชินช่วยยับยั้งการทำงานของเอนไซม์อะไมเลสในน้ำลาย ทำให้มีปริมาณกลูโคสและมอลโตสน้อยลง ซึ่งเป็นผลลดปริมาณอาหารของแบคทีเรียที่ทำให้เกิดฟันผุ นอกจากนี้คาเทชินยังช่วยเคลือบฟันให้แข็งแรงป้องกันฟันผุ

6.ชากับโรคอุจจาระร่วง

Polyphenols มีคุณสมบัติในการต้านเชื้อแบคทีเรีย เชื่อกันว่า Polyphenols ทำลายเยื่อหุ้มเซลล์ของแบคทีเรีย การดื่มชาสามารถใช้รักษาโรคอุจจาระร่วงได้ และสามารถฆ่าสปอร์ของ Clostridium botulinum ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคอาหารเป็นพิษ และยังสามารถฆ่าแบคทีเรียที่ทนความร้อน เช่น  Bacillus subtilis, B. cereus, Vibrio parahaemolyticus และ C. perfringens

7.ชากับโรคอ้วน

ในชาประกอบด้วยสารสำคัญเรียกว่า โพ ลิฟีนอล (Polyphenols) ที่มีความสามารถยับยั้งเอนไซม์ Catechol-O-methyl transferase จึงช่วยกระตุ้นการสร้างความร้อนของร่างกาย มีส่วนช่วยเผาผลาญพลังงานและช่วยจัดการกับโรคอ้วน ทั้งยังมีคุณสมบัติในการชะลอการปล่อยกลูโคส (Glucose) สู่กระแสเลือด ทำให้ชะลอการสร้างอินซูลิน (Insulin) ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ส่งเสริมให้ร่างกายสะสมไขมัน ดังนั้น ร่างกายจึงเผาผลาญไขมันแทนที่จะสะสมไขมัน

8.ชากับการผ่อนคลายของระบบประสาท

   L-Theanine เป็นสารสำคัญในชา ออกฤทธิ์กับระบบประสาทส่วนกลาง ช่วยให้สมองปลดปล่อยคลื่นสมองอัลฟา (Alpha Brain Wave) มากขึ้น และลดการปลดปล่อยคลื่นสมองเบต้า (Beta Brainwave)ลง  ทำให้ช่วยผ่อนคลาย (Relaxation) และลดความเครียด  เป็นการส่งเสริมให้มีจิตใจที่สงบ  มีสมาธิมากขึ้น  ไม่หงุดหงิดง่าย  ลำดับความคิดเป็นระบบระเบียบมากขึ้น ส่งผลให้ประสิทธิภาพในการทำงานดีขึ้น

ที่มา : http://teainstitutemfu.com

ชาดอกบัว Lotus tea

ชาดอกบัว Lotus tea

ราชินีแห่งน้ำ

ดอกบัว มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Nymphaea lotus Linn เป็นพืชน้ำล้มลุก ลักษณะเป็นเหง้าไหล หรือหัว ใบเป็นใบเดี่ยว เจริญขึ้นจากลำต้น บัวเป็นดอกไม้ที่ได้ชื่อว่า "ราชินีแห่งน้ำ" ชอบน้ำสะอาด จะขึ้นในน้ำจืดได้ดีตลอดปี

บัวที่ปลูกในประเทศไทยมาจาก 3 สกุล

- บัวหลวง Lotus

- บัวผัน หรือบัวสาย Waterlily

- บัววิกตอเรีย Victoria

สรรพคุณ

เกษรบัวช่วยบำรุงหัวใจ ช่วยขยายหลอดเลือด ช่วยป้องกันอาการเต้นของหัวใจผิดปกติ ช่วยบรรเทาอาการนอนไม่หลับ

วิธีใช้

ชาบัว 1 ซอง ในน้ำร้อน แช่ไว้ประมาณ 2 - 3 นาที ดื่มขณะอุ่นๆ

ที่มา : http://www.lannatalkkhongdee.com

 

ตัวอย่างผลิตภัณฑ์ของเรา บริษัทวาไรตี้  เอ็กซ์พอร์ต  จำกัด ตรา "เนเชอรัล เทรนด์ดี้"

 

ชาสมุนไพร ตรา เนเชอรัล เทรนด์ดี้

 

ชาสมุนไพร ตรา เนเชอรัล เทรนด์ดี้

 

-------------------------------------------------------------------------

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม

Tel: 053-231-781

Line ID: naturaltrendies

Email: gram_varietyexport@hotmail.com

Website:www.naturaltrendiesstore.com

รวม 10 สุดยอดชาสมุนไพร

          ชาเป็นเครื่องดื่มที่คุ้นเคยกันทั่วโลก รวมถึงประเทศไทยของเราเอง  นอกจากใบชาตรงๆแล้วนั้นมีการนำสมุนไพรหลายชนิด ทั้งสมุนไพรไทย และ สมุนไพรจีนมาชงในลักษณะของชา  ข้อแตกต่างที่เห็นได้ชัดคือเป็นชาที่ไร้ซึ่งคาเฟอีน ส่วนคุณประโยชน์ก็หลากหลายตามชนิดและประเภทของชา วันนี้ทางเว็บไทยสมุนไพร.net จึงขอนำเสนอ 10 สุดยอดชาสมุนไพรมาท่านทุกท่านได้รู้จักกัน

ชาใบเตย

1.ชาใบเตย  สำหรับสรรพคุณของชาใบเตย  ได้แก่บำรุงหัวใจ ขับปัสสาวะ  ชาใบเตย ทำจากใบเตยหอม อบแห้ง บดเป็นผง มี สีเขียวใบเตย มีกลิ่นหอมชื่นใจใบเตยมีคุณสมบัติหลักๆ ขับปัสสาวะ ช่วยลดน้ำตาลในเลือด ชาใบเตยจึงเหมาะกับคนที่เป็นโรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง คนธรรมดาทั่วไปก็ดื่มได้กลิ่นหอมของใบเตยชื่นใจ คลายเครียดได้ดี เป็น Aroma therapy อีกรูปแบบหนึ่ง

2.ชามะตูม สรรพคุณตามตำราคือ บางตำราบอกเพิ่มสมรถภาพทางเพศ  บำรุงสุขภาพ ทำจากผลมะตูมแก่ บดเป็นผง ให้น้ำชาสีแดงออกน้ำตาล มีกลิ่นหอมหวานชวนดื่ม ส่วนใหญ่จะแต่งรสด้วยน้ำตาล เพื่อให้ได้รสชาติที่ดีขึ้น มะตูมเป็นสมุนไพรที่มีสรรพคุณบำรุงธาตุ แก้ร้อนใน เป็นยาอายุวัฒนะชาขิง

3.ชาขิง จริงๆจะเรียกว่าน้ำขิงก็ไม่ผิดอะไรนัก แก้หวัด และช่วยย่อย  ทำจากเหง้าขิงแก่ ที่มีน้ำมันหอมระเหย  มีสรรพคุณทางร้อน ช่วยบรรเทาหวัด แก้คลื่นไส้อาเจียน เมารถเมาเรือ ช่วยย่อยอาหาร แก้ท้องอืด

4.ชาใบฝรั่ง คุณสมบัติหลักคือดับกลิ่น ฆ่าเชื้อ ทำจากใบฝรั่งไทยอบให้แห้ง บดเป็นผง มีกลิ่นหอมชวนดื่ม มีคุณสมบัติดับกลิ่นปาก ฆ่าเชื้อในปากและคอ เหมาะที่จะรับประทานหลังอาหาร สามารถที่จะใช้ชาใบฝรั่งระงับอาการท้องเสีย (ในรายที่ไม่มีไข้) แต่ต้องชงอย่างเข้มข้นกว่าปกติ

5.ชาหญ้าหนวดแมว สรพพคุณหลักคือขับปัสสาวะ  ตอนนี้คนรู้จักพืชชนิดนี้มากขึ้น  สำหรับชานี้ทำจากหญ้าหนวดแมวอบแห้งบด มีรสคล้าย ๆ ใบชา มีคุณสมบัติขับปัสสาวะ ขับนิ่วก้อนเล็ก ๆ มีคุณสมบัติขับกรดยูริค เหมาะกับคนที่เป็นต่อมลูกหมากโต คนที่เป็นนิ่วก้อนเล็ก ๆ ชวยลดน้ำตาลในเลือด เหมาะกับคนที่เป็นโรคเบาหวาน มีโปรแตสเสียมสูง ระวังการใช้กับคนที่เป็นโรคหัวใจ

6.ชาตะไคร้ สามารถช่วยขับลม ช่วยย่อย  ทำจากต้นและใบตะไคร้อบให้แห้งแล้วบด ตะไคร้จะมีกลิ่นหอม ช่วยย่อยชาตะไคร้

อาหาร แก้ลมวิงเวียน แก้ปวดเกร็งในท้อง ขับเหงื่อ ขับปัสสาวะและมีรายงานการทดลองพบว่า ตะไคร้นั้นมีคุณสมบัติต้านมะเร็งได้อีกด้วย

7.ชาชุมเห็ดเทศ มีคุณสมบัติเป็นยาระบายท้อง ได้จากใบชุมเห็ดเทศคั่วให้แห้ง  แล้วบดเป็นผง ให้น้ำชาเป็นสีน้ำตาลมีกลิ่นหอมของใบไม้คั่ว มีสรรพคุณเป็นยาระบาย แต่หากดื่มเป็นประจำร่างกายก็อาจดื้อยาได้ ควรหาวิธีอืนในการสร้างนิสัยการถ่ายให้เป็นประจำโดยวิธีอื่นด้วย

ชาดดอกคำฝอย

8.ชาดอกคำฝอย ลดไขมันในเลือด  สามรถหาซื้อได้ทั่วไป โดยทำจากดอกคำฝอย ลักษณะสีของชา มีสีแดงชวนดื่ม กลิ่นหอมชื่นใจ มีคุณสมบัติลดไขมันในเส้นเลือด ขับเหงื่อ เป็นยาระบายอ่อน ๆ บำรุงเลือดสตรี ขับระดู ระงับอาการปวดในสตรีที่รอบเดือนไม่ปกติ

9.ชารางจืด สามรถกำจัดพิษ และล้างสารพิษ  ทำจากใบรางจืดอบแห้งมีกลิ่นใบไม้แห้ง หอมอ่อนๆ เป็นธรรมชาติ ให้น้ำชาสีน้ำตาลออกเขียว มีสรรพคุณกำจัดพิษ แก้เมาค้าง บรรเทาอาการผื่นแพ้ และลดความร้อนในร่างกาย เหมาะกับเมืองไทยในขณะนี้ ที่ร้อนขึ้นเรื่อย ๆ ชารางจืดไม่มีพิษดื่มเป็นประจำได้ทุกวัน

10.ชากระเจี๊ยบ สามารถช่วยขับปัสสาวะไขมันในเลือด ได้มาจากดอกของกระเจี๊ยบแดง มีคุณสมบัติในการลดไขมันในเลือด ลดความดันโลหิตสูง แก้กระหายน้ำ ทำให้ชุ่มคอชื่นใจ ชากระเจี๊ยบมีสีแดง รสเปรี้ยวมักเติมน้ำตาลเพื่อแต่งรส

ขอบคุณข้อมูลจาก เว็บไซต์นิสิตมหาลัยนเรศวร

ที่มา : http://xn--o3cepkej9b3gpeg.net/

 

ตัวอย่างผลิตภัณฑ์ของเรา บริษัทวาไรตี้  เอ็กซ์พอร์ต  จำกัด ตรา "เนเชอรัล เทรนด์ดี้"

 

ชาสมุนไพร ตรา เนเชอรัล เทรนด์ดี้

 

ชาสมุนไพร ตรา เนเชอรัล เทรนด์ดี้

 

-------------------------------------------------------------------------

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
Tel: 053-231-781
Line ID: naturaltrendies
Email: gram_varietyexport@hotmail.com
Website: www.naturaltrendiesstore.com

ผลิตภัณฑ์ "ชากลีบดอกบัวหลวง" ของเราลงหนังสือพิมพ์ด้วย

โอ้ะโอ!! รู้ยัง ผลิตภัณฑ์ "ชากลีบดอกบัวหลวง" ของเราอยู่ใน 7 ผลิตภัณฑ์ ไทยแลนด์นอร์ทเทิร์น ฟู้ด วัลเลย์ ด้วยน้า

 

ตัวอย่างผลิตภัณฑ์จากทางเรา บริษัทวาไรตี้  เอ็กซ์พอร์ต  จำกัด ตรา "เนเชอรัล เทรนด์ดี้"

ชาสมุนไพร ตรา เนเชอรัล เทรนด์ดี้

ชาสมุนไพร ตรา เนเชอรัล เทรนด์ดี้

 

ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

Tel : 053-231-781
LineID : naturaltrendies
Email : gram_varietyexport@hotmail.com
www.naturaltrendiesstore.com

ความเข้าใจผิด!! เกี่ยวกับชาสมุนไพร

เคยมีคำถามเหล่านี้เกี่ยวกับชาสมุนไพรกันไหมเอ่ย!!


"กินชาสมุนไพรมันดีจริงหรือ มันเป็นชา มีคาเฟอีน ทำให้ท้องผูก นอนไม่หลับหรือไม่ แพ้คาเฟอีนกินได้ไหม กินบ่อยได้หรือเปล่า"


ทางเราขอตอบเลยค่ะว่า คุณกำลังเข้าใจผิด เพราะจริงๆแล้ว ชาสมุนไพรนั้น "ไม่ใช่ชา และ ไม่มีคาเฟอีน" เนื่องจากชาสมุนไพรของทางเราทำจากผลไม้ ดอกไม้ และสมุนไพรตากแห้ง ซึ่งไม่ได้มีส่วนผสมที่เป็นใบชาเลย แต่เราก็ยังเรียกว่าชา เพราะวิธีการชงนั้นเหมือนกับการชงชาทั่วๆไปนั่นเอง

อีกทั้งการดื่มชาสมุนไพรนั้นจะช่วยทำให้ความดันเลือดลดลงในผู้ป่วยที่มีปัญหาความดันเลือดสูง และเป็นการบำรุงสุขภาพได้ทุกวันโดยไม่ต้องพึ่งยา ซึ่งผลิตภัณฑ์ของเรา ภายใต้ตรา "เนเชอรัล เทรนด์ดี้" ทำออกมาให้มีรสชาติที่กลมกล่อม ทานง่าย สามารถทานได้ทุกมื้อ ทุกวัน พกพาสะดวก โดยไม่ทำลายสุขภาพและรู้สึกผ่อนคลายทุกครั้งที่ได้ทาน และมีหลากหลายผลิตภัณฑ์จากหลากหลายสมุนไพรมาให้เลือกทาน เพื่อบำรุงสุขภาพจากสิ่งที่ได้ตามคุณสมบัติของสมุนไพรไทยในแต่ละชนิดอีกด้วยค่ะ

 

ตัวอย่างผลิตภัณฑ์จากทางเรา บริษัทวาไรตี้ เอ็กซ์พอร์ต จำกัด ตรา "เนเชอรัล เทรนด์ดี้"

ชาสมุนไพร ตรา เนเชอรัล เทรนด์ดี้

ชาสมุนไพร ตรา เนเชอรัล เทรนด์ดี้

 

ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

Tel : 053-231-781
LineID : naturaltrendies
Email : gram_varietyexport@hotmail.com
www.naturaltrendiesstore.com

เคล็ดลับการชงชาให้อร่อยและได้คุณค่าจากชาที่สุด

หลายคนอาจจะคิดว่า ชงชาไม่เห็นจะยากอะไร แค่เอาใบชาใส่แล้วเอาน้ำร้อนเติมลงไป ซักพักก็ใช้ได้แล้ว แต่จริงๆไม่ใช่อย่างนั้นเสมอไป โดยเฉพาะการชงชาจากใบชา ไม่ใช่ชาที่อยู่ในถุงชงสำเร็จรูป จริงๆแล้วจะมีขั้นตอนการชงชาที่ทำให้ได้รสชาติที่ดีเยี่ยมที่สุด (ตอนผู้เขียนไปเที่ยวเมืองจีน โดนทัวร์ต้อนไปร้านขายใบชา ถึงได้รู้ว่าวิธีการชงชาที่ถูกต้องเป็นอย่างไร) เราจึงมีเคล็ดลับการชงชามาฝากคุณผู้อ่านเป็นการแถมท้ายด้วยค่ะ

  • ปริมาณชาที่จะใช้ จะขึ้นกับรูปร่าง ลักษณะและคุณภาพของใบชา โดยมากจะใส่ประมาณ 25-30% ของความจุกาน้ำชา แต่ถ้าใครไม่ชอบรสชาเข้มข้นอาจจะลดปริมาณชาให้น้อยลงได้ค่ะ

 

  • อุณหภูมิน้ำ น้ำจะชงชาเป็นน้ำร้อนแต่ไม่ใช่น้ำเดือดอุณหภูมิ 100 องศาเซลเซียสเสมอไป ชาแต่ละชนิดจะใช้น้ำที่อุณหภูมิที่ชงไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับรูปร่างและชนิดของชา เช่น ชาที่มีใบกลมแน่น จะใช้น้ำที่อุณหภูมิ 90 องศาเซลเซียสขึ้นไป ชาที่มีใบเรียวเล็กหรือชาที่ยอดใบอ่อนเยอะอย่างชาขาว จะใช้น้ำที่อุณหภูมิ 80-90 องศาเซลเซียส ส่วนชาเขียวมักจะชงที่น้ำอุณหภูมิ 80 องศาเซลเซียสลงไปเล็กน้อย

 

  • กาน้ำชา กาน้ำชาที่จะทำให้ได้รสชาติของชาดีที่สุดคือ กาดินเผา หรือกาเซรามิค

 

  • วิธีการชงชานั้น จะแนะนำให้เอาน้ำร้อนเทใส่กาชาไว้ และเทออก เพื่ออุ่นกาชาก่อน หลังจากนั้นจึงตักใบชาใส่ลงไปตามที่ต้องการ (โดยมาก 25-30% ของความจุกาชา) แล้วจึงเทน้ำร้อนลงไปประมาณครึ่งกา แล้วเทน้ำออกใน 5 วินาที (ขั้นนี้เป็นการอุ่นใบชา ไม่ต้องเสียดายน้ำนี้นะคะ) หลังจากนั้นจึงเทน้ำร้อนลงไปจนเต็มกา และปิดฝากาไว้ เทน้ำร้อนไว้ที่ฝากาเล็กน้อยด้วย (เพื่อเป็นการกักความหอมของชาไว้ในการไม่ให้ระเหยออกมาหมด) รอประมาณ 40-60 วินาที จึงรินชามาดื่มค่ะ

 

  • ชา  1 กานั้น สามารถเติมน้ำเพื่อชงซ้ำได้ประมาณ 4-6 ครั้ง หรือจนกว่าความหอมของชาจะหมดไป และแต่ละครั้งควรเพิ่มระยะเวลาในการรอน้ำชาหลังจากเติมน้ำครั้งละ 10-15 วินาทีด้วยค่ะ

 

  • การชงชาแต่ละครั้ง ควรรินน้ำชาให้หมดกาเสียก่อนจึงค่อยเติมน้ำร้อนลงในกาใหม่ ถ้าไม่รินน้ำชาเก่าออกให้หมด ชาจะเสียรสชาติ อาจมีรสขมหรือฝาดเพิ่มขึ้น และยังอาจทำให้ท้องผูกได้ด้วย

 

  • ใบชาที่ชงเสร็จแล้ว อย่ารีบนำไปทิ้งนะคะ เราสามารถเอาใบชาที่ชงแล้วไปตากแห้งและนำมายัดหมอนที่นอนแทนนุ่น จะช่วยให้หลับสบายขึ้น หรือนำใบชาเหล่านี้ไปประกอบอาหารเมนูใหม่ๆเพื่อทานได้ด้วยค่ะ

ที่มา : http://www.moe.go.th/

 

หมายเหตุ: ความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับชาสมุนไพร (Herbal tea) จากทางเรา

ชาสมุนไพรนั้นจริงๆแล้วไม่ใช่ชา เนื่องจากชาสมุนไพรนั้นทำจากผลไม้ ดอกไม้ และสมุนไพรตากแห้ง ไม่ได้มีส่วนผสมที่เป็นใบชาเลย (แต่เราก็ยังเรียกว่าชา เพราะวิธีการชงนั้นเหมือนกับการชงชาทั่วๆไปนั่นเอง) ชาชนิดนี้ไม่มีคาเฟอีน (เพราะอย่างที่บอกไปแล้วว่าไม่มีส่วนประกอบของใบชาอยู่เลย) แต่ไม่แนะนำให้ดื่มชาสมุนไพรยี่ห้อที่อ้างสรรพคุณว่าช่วยลดน้ำหนักนะคะ เพราะมีโอกาสสูงมากที่จะเจอชาที่ผสมยาระบายที่อาจเป็นพิษต่อร่างกายได้

การดื่มชาสมุนไพรนั้นจะช่วยทำให้ความดันเลือดลดลงในผู้ป่วยที่มีปัญหาความดันเลือดสูง และเป็นการบำรุงสุขภาพได้ทุกวันโดยไม่ต้องพึ่งยา ซึ่งผลิตภัณฑ์ของเรา ภายใต้ตรา "เนเชอรัล เทรนด์ดี้" ทำออกมาให้มีรสชาติที่กลมกล่อม ทานง่าย สามารถทานได้ทุกมื้อ ทุกวัน พกพาสะดวก โดยไม่ทำลายสุขภาพและรู้สึกผ่อนคลายทุกครั้งที่ได้ทาน และมีหลากหลายผลิตภัณฑ์จากหลากหลายสมุนไพรมาให้เลือกทาน เพื่อบำรุงสุขภาพจากสิ่งที่ได้ตามคุณสมบัติของสมุนไพรไทยในแต่ละชนิดิีกด้วยค่ะ 

"หันมาใส่ใจสุขภาพกันสักนิด เพื่อตัวคุณเองและคนที่คุณรักกันนะคะ"

 

ตัวอย่างผลิตภัณฑ์จากทางเรา ตรา "เนเชอรัล เทรนด์ดี้"

ชาสมุนไพร ตรา เนเชอรัล เทรนด์ดี้

ชาสมุนไพร ตรา เนเชอรัล เทรนด์ดี้

 

ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

Tel : 053-231-781
LineID : naturaltrendies
Email : gram_varietyexport@hotmail.com
www.naturaltrendiesstore.com

ชา 6 ชนิดที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ

 

สาวๆ หนุ่มๆ คนไหนชอบดื่มชากันบ้างคะ? นอกจากรสชาติของน้ำชาที่เราหลงไหลกันแล้ว คุณผู้อ่านทราบหรือไม่คะว่าชายังมีประโยชน์ต่อร่างกายอีกด้วย (ชาในที่นี้ คือ ชาที่ชงใหม่ๆ ไม่เติมน้ำตาล ไม่ใช่น้ำชาสำเร็จรูปที่เติมน้ำตาลและแต่งรสชาติให้หวานมาขายบรรจุขวดพร้อมดื่มนะคะ) วันนี้ทางชุมชนผู้หญิงสุขภาพดีจึงมีเรื่องราวของชาที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพมาฝากคุณผู้อ่านกันค่ะ

1.ชาดำ (Black tea)

ชาดำเป็นชาที่แพร่หลายมากที่สุดชนิดหนึ่ง เกิดจากการเอาใบชาสายพันธุ์ Camellia sinensis มาผ่านกระบวนการบ่มชา อบแห้ง และบดใบชา ชาชนิดนี้จะมีรสชาติขมเล็กน้อย และมีปริมาณคาเฟอีนมากที่สุดในบรรดาชาด้วยกัน (40 มิลลิกรัมต่อถ้วย) แต่ก็ยังน้อยกว่าในกาแฟค่ะ

ชาดำนั้นจะอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น Theflavins, Thearubigins เป็นต้น ซึ่งจะมีส่วนในการช่วยลดคอเลสเตอรอลในเลือดอีกด้วย มีการศึกษาพบว่า คนที่ดื่มชาดำประมาณ 3 ถ้วยต่อวัน จะมีโอกาสเกิดภาวะหัวใจวายเฉียบพลันลดลงถึง 21%

2.ชาเขียว (Green tea)

ชาเขียวนั้นจะมีกลิ่นที่หอมนุ่มนวลกว่ากลิ่นของชาดำ โดยจะมีปริมาณคาเฟอีนที่น้อยกว่าชาดำ คือ 25 มิลลิกรัมต่อชา 1 ถ้วย ชาเขียวนั้นมีสารต้านอนุมูลอิสระจำนวนมาก เช่น สาร Catechins ซึ่งช่วยป้องกันการเกิดมะเร็งและโรคหัวใจ มีการศึกษาพบว่าการดื่มชาเขียววันละ 1 ถ้วยจะลดความเสี่ยงในการเกิดโรคเกี่ยวกับหัวใจได้ประมาณ 10% ค่ะ

3.ชาอูหลง (Oolong tea)

ชาอูหลงนั้นผลิตจากใบชาชนิดเดียวกับชาดำ แต่ผ่านกระบวนการบ่มใบชาที่สั้นกว่า ทำให้ได้รสชาติที่ดีกว่า ชาอูหลง 1 ถ้วยจะมีปริมาณคาเฟอีนประมาณ 30 มิลลิกรัม หลายคนเชื่อว่าชาชนิดนี้ช่วยในการลดน้ำหนัก เพราะสารในชาอูหลงนั้นจะช่วยกระตุ้นการทำงานของเอนไซม์ที่ทำหน้าที่ในการย่อยไขมันในกลุ่มไตรกลีเซอไรด์ มีการศึกษาหนึ่งพบว่าผู้หญิงที่ดื่มชาอูหลงจะมีอัตรการเผาผลาญพลังงานได้เร็วกว่าผู้หญิงที่ดื่มน้ำเปล่าเล็กน้อย

4.ชาขาว (White tea)

ชาขาวได้จากการเก็บใบชาตั้งแต่ยอดชายังอายุน้อยๆ ชาชนิดนี้จะมีกลิ่นอ่อนกว่าชาชนิดอื่นและมีปริมาณคาเฟอีนน้อยกว่า คือ ประมาณ 15 มิลลิกรัมต่อถ้วย พบว่าชาที่ชงจากใบชาใส่กาจะมีปริมาณสารต้านอนุมูลอิสระมากกว่าชาที่ชงจากชาที่อยู่ในถุงชาค่ะ

ประโยชน์ของชาขาวนั้นมีหลากหลาย ตั้งแต่ช่วยป้องกันการเกิดมะเร็งและโรคหัวใจเหมือนชาชนิดอื่นๆแล้ว พบว่าชาขาวอาจจะมีประโยชน์ช่วยป้องกันโรคเบาหวานอีกด้วย เพราะพบว่าผู้ที่ดื่มชาขาวเป็นประจำ จะมี Glucose tolerance ดีขึ้น (ความทนต่อการเพิ่มขึ้นของน้ำตาลกลูโคสในเลือด หรือพูดง่ายๆก็คือ ร่างกายสามารถปรับตัวให้มีการหลั่งอินซูลินออกมาควบคุมปริมาณน้ำตาลกลูโคสในเลือดได้นั่นเอง) และยังช่วยลดคอเลสเตอรอลได้อีกด้วยค่ะ

5.ชาอโรม่า/ชาแต่งกลิ่น (Aromatic tea, Flavored tea)

ชาอโรม่าก็คือ ชาที่นำผลิตภัณฑ์ที่ให้กลิ่นหอม เช่น ลาเวนเดอร์ อบเชย(ชินนามอน) เปลือกส้ม มาผสมกับใบชาต่างๆอาจจะเป็นชาดำ ชาขาว หรือชาเขียวก็ได้ ชาชนิดนี้อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระคล้ายกับในชาชนิดอื่นๆ และชาอโรม่าบางชนิดที่ผสมผลไม้บางชนิด เช่นชาบลูเบอร์รี่ ก็อาจจะยิ่งมีสารต้านอนุมูลอิสระเพิ่มขึ้นได้

แต่ผลิตภัณฑ์ชาอโรม่าหรือชาแต่งกลิ่นนี้ ไม่แนะนำให้ทานแบบที่ชงสำเร็จบรรจุขวดมาขายนะคะ เพราะชาเหล่านี้มักจะใส่น้ำตาลในปริมาณมาก (น้ำตาลเยอะๆคงไม่ดีต่อสุขภาพแน่ๆ) และยังมีปริมาณสารต้านอนุมูลอิสระน้อยกว่าแบบชงเองถึง 20 เท่าด้วยค่ะ

6.ชาสมุนไพร (Herbal tea)

ชาสมุนไพรนั้นจริงๆแล้วไม่ใช่ชา งงกันหรือไม่ค่ะ เนื่องจากชาสมุนไพรนั้นทำจากผลไม้ ดอกไม้ และสมุนไพรตากแห้ง ไม่ได้มีส่วนผสมที่เป็นใบชาเลย (แต่เราก็ยังเรียกว่าชา เพราะวิธีการชงนั้นเหมือนกับการชงชาทั่วๆไปนั่นเอง) ชาชนิดนี้ไม่มีคาเฟอีน (เพราะอย่างที่บอกไปแล้วว่าไม่มีส่วนประกอบของใบชาอยู่เลย) แต่ไม่แนะนำให้ดื่มชาสมุนไพรยี่ห้อที่อ้างสรรพคุณว่าช่วยลดน้ำหนักนะคะ เพราะมีโอกาสสูงมากที่จะเจอชาที่ผสมยาระบายที่อาจเป็นพิษต่อร่างกายได้ค่ะ

ที่มา : http://www.moe.go.th/

 

การดื่มชาสมุนไพรนั้นจะช่วยทำให้ความดันเลือดลดลงในผู้ป่วยที่มีปัญหาความดันเลือดสูง และเป็นการบำรุงสุขภาพได้ทุกวันโดยไม่ต้องพึ่งยา ซึ่งผลิตภัณฑ์ของเรา ภายใต้ตรา "เนเชอรัล เทรนด์ดี้" ทำออกมาให้มีรสชาติที่กลมกล่อม ทานง่าย สามารถทานได้ทุกมื้อ ทุกวัน พกพาสะดวก โดยไม่ทำลายสุขภาพและรู้สึกผ่อนคลายทุกครั้งที่ได้ทาน และมีหลากหลายผลิตภัณฑ์จากหลากหลายสมุนไพรมาให้เลือกทาน เพื่อบำรุงสุขภาพจากสิ่งที่ได้ตามคุณสมบัติของสมุนไพรไทยในแต่ละชนิดอีกด้วยค่ะ 

 

"หันมาใส่ใจสุขภาพกันสักนิด เพื่อตัวคุณเองและคนที่คุณรักกันนะคะ"

 

ตัวอย่างผลิตภัณฑ์จากทางเรา ตรา "เนเชอรัล เทรนด์ดี้"

ชาสมุนไพร ตรา เนเชอรัล เทรนด์ดี้

ชาสมุนไพร ตรา เนเชอรัล เทรนด์ดี้

 

ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

Tel : 053-231-781
LineID : naturaltrendies
Email : gram_varietyexport@hotmail.com
www.naturaltrendiesstore.com